รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ต่อสายคุย ประยุทธ์ พร้อม ชมไทยรับมือโควิดดี

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ต่อสายคุย ประยุทธ์ พร้อม ชมไทยรับมือโควิดดี

ประยุทธ์ ปลื้ม หลัง รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกปากชมว่าไทยรับมือการแพร่ระบาดของโควิดได้ดี พร้อมทำงานร่วมกันแก้ปัญหาภูมิภาค เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เว็ปไซต์ ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยว่า พล.อ.ลอยด์ ออสติน ได้หารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ผ่านระบบโทรศัพท์ทางไกล ณ ทำเนียบรัฐบาล

โดยพลเอก ประยุทธ์ ได้แสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของนาย ออสติน 

และยึดมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ทั้งสองยังได้หารือถึงมาตรการในการรับมือของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งทางการสหรัฐฯได้ยื่นมือให้การสนับสนุนในการต่อสู้กับโรคระบาด ซึ่งนายกฯได้ขอบคุณและรู้สึกซาบซึ้งกับความช่วยเหลือจากประเทศสหรัฐฯ

นอกจากนี้พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่านายออสตินได้กล่าวชื่นชมต่อมาตรการรับมือโควิดในไทยอีกด้วย พร้อมชี้ว่าไทยเป็นประเทศที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และขอให้ไทยใช้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์ในภูมิภาค โดยสหรัฐฯยึดมั่นในหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม และพร้อมให้การสนับสนุนไทย

ท้ายเอกสารระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อรักษาความสัมพันธุ์ที่แน่นแฟ้น และพร้อมสนับสนุนสหรัฐฯเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหาในภูมิภาคอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความสงบมั่นคง และประโยชน์ของภูมิภาคร่วมกัน

มาดามเดียร์ หรือ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. มีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ และ ส.ส.ระยอง หลังจากที่พวกเธอได้งดลงคะแนนให้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นการสวนมติพรรค

โดยมาดามเดียร์ระบุว่า ขณะนี้เรายังไม่มีท่าทีอะไร ต้องรอให้คณะกรรมการฯ เรียกเข้าไปชี้แจงก่อน และเห็นว่า การเปิดให้เราชี้แจงแล้วค่อยตัดสินใจ ดีกว่าไม่ได้ชี้แจงแล้วตัดสินไปก่อน อย่างนั้นไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ ระบุว่าเธอไม่รู้สึกกังวล เพราะการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานความสุจริตใจ ไม่มีอคติใดๆ ทั้งสิ้น จึงมั่นใจว่า สามารถอธิบายรายละเอียดและเหตุผลต่างๆ ต่อคณะกรรมการได้ชัดเจน และกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถือว่า ความผิดสำเร็จชัดเจน เห็นได้จากที่เอกชนที่ได้รับความเสียหายในโครงการดังกล่าว ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เรียบร้อยแล้ว ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน เตรียมยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาผิดเช่นกัน

สุเทพ เดินทางถึงศาล เตรียมฟังคำพิพากษา คดีกบฏ

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส ได้เดินทางถึงศาลอาญา เพื่อเตรียมฟังคำพิพากษา ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ โดยคดีนี้อัยการโจทก์ยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2561 ซึ่งนอกจากนาย สุเทพ แล้วยังมีกลุ่ม กปปส. โดยสั่งฟ้องรวม 39 คน

โดยบรรยากาศในวันนี้ กลุ่มจำเลยทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า และมีประชาชนมารอมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ ขณะที่กำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.พหลโยธินดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ

สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.56 – 1 พ.ค. 57 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคล ชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือ กลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพเป็นเลขาธิการ โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร

กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง

รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรี และ ครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส. จากนั้น กปปส.จะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง

รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สตช. บช.น. สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่ง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร